บัวลอย หรือ ขนมบัวลอย

บัวลอย คือขนมไทยโบราณที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยา อาจจะไม่มีประวัติแน่ชัดว่าเริ่มต้นมาจากไหน แต่ทุกภาคในประเทศไทยนั้นก็มีเมนู ขนมไทย หรือขนมหวานชนิดนี้อยู่เสมอ ขนมหวานไทยชนิดนี้ไม่ใช่แค่มีรสชาติอร่อยหอมหวานกะทิเท่านั้น รวมไปถึงความนุ่มนิ่มของแป้งที่ไม่ว่าได้ทานก็ต้องอร่อยและติดใจอย่างแน่นอน แต่ขนมชนิดนี้ก็มีความหมายที่เป็นมงคลอีกด้วย ขนมบัวลอยมีความหมายที่ดีมากๆ มันสื่อถึงความกลมเกลียวเหนียวแน่นของคนในครอบครัว เพราะแบบนี้คนเลยนิยมนำขนมบัวลอยมารับประทานในงานบุญหรืองานมงคลต่างๆ เพื่อให้ผู้คนที่ได้รับประทานนั้นจะได้รักใคร่กลมเกลียวกันตามความหมายดีๆของขนมหวานชนิดนี้
วิธีทำบัวลอย

วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเหนียว 100 กรีม
- แป้งมัน 10 กรัม
- สีผสมอาหาร สีฟ้า/สีม่วง/สีแดง/สีเหลือง/สีเขียว อย่างละ 4 หยด (เลือกสีได้ตามที่ต้องการ)
- น้ำสะอาด 8 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กะทิ 4 ถ้วย (หัวกะทิ 2 ถ้วย + หางกะทิ 2 ถ้วย)
- เกลือป่น ¼ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- น้ำตาลปิ๊บ 100 กรัม
- มะพร้าวอ่อนหั่นชิ้นพอดีคำ 50 กรัม
ขั้นตอนการทำบัวลอย
1. ขั้นตอนเตรียมแป้งบัวลอย
- ให้นำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงไปในถ้วยผสม แล้วตามด้วยแป้งมัน และสีผสมอาหาร จากนั้นค่อยๆเติมน้ำสะอาดลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ พร้อมกับนวดแป้งไปด้วย ใส่น้ำลงไปจนครบ 8 ช้อนโต๊ะ นวดแป้งให้เนื้อเบียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เหลวติดมือ จากนั้นให้นำผ้าขาวบางหรือแล็ปคลุมแป้งไว้เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไป แล้วให้พักแป้งไว้เพื่อปั้น
- เมื่อผสมแป้งเสร็จแล้วให้นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาด 1 ซม. แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด เมื่อแป้งลอยตัวขึ้นมาให้ช้อนแป้งมาพักไว้ในน้ำเย็น
2. ขั้นตอนเตรียมน้ำกะทิ+ไข่หวาน
- นำหม้อขึ้นมาตั้งไฟกลาง จากนั้นให้ใส่หางกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลปิ๊บ น้ำตาลทราย และเกลือป่น แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน หลังจากนั้นให้ตอกไข่ลงในน้ำกะทิทีละฟอง เมื่อไข่สุกแล้วให้ตักขึ้นพักไว้เพื่อเตรียมใส่ในบัวลอย
3. ขั้นตอนการเตรียมบัวลอย พร้อมจัดเสิร์ฟ
- เมื่อตักไข่ขึ้นจากน้ำกะทิแล้ว ให้เติมหัวกะทิลงไปในหางกะทิ หลังจากนั้นให้คนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็ให้นำบัวลอยที่พักไว้ใส่ลงไปในน้ำกะทิ แล้วต้มเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้ความหวานมันจากน้ำกะทิซึมเข้าไปในแป้งบัวลอย เมื่อครบเวลาแล้วให้ตักบัวลอบใส่ถ้วยและท็อปด้วยไข่หวาน พร้อมเสิร์ฟ
Tagged เมนูขนมไทย